3D Triwar เรียลสามก๊กBy Online-Station
แนะวิธีการทำอย่างไรถึงจะเก่งใน 3D Triwar ? ภาค 1
ผู้เล่นหลายๆคนอาจจะยังสงสัยเมื่อเริ่มเล่นเกมว่า ทำอย่างไรก่อนหรือหลังดีกว่ากัน ทำอย่างไรจึงจะเก่ง หรือฟังก์ชั่นหน้าตาแปลกๆมากมายทำอะไรได้บ้าง เรามาชมกันคะ!!
1. เรื่องของการ์ด
ระดับการ์ดในเกมแบ่งจากสูงไปต่ำดังนี้:สีทอง สีเงิน สีฟ้า สีดำ แน่นอนครับว่าทุกคนอยากได้การ์ดทองแต่การ์ดทองตัวไหนล่ะที่เก่งที่สุด เราจัด 5 อันดับการ์ดสุดแกร่งในเกม ไปดูซิว่า คุณมีเหล่าขุนพลนี้รึยัง?
(เรียงจากซ้ายไปขวา : ขงเบ้ง > จิวยี่ > สุมาอี้ > ลิโป้ และ จูล่ง) ทุกคนมีความเก่งแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลเลยครับ
นอกจากการ์ดทอง 5 ใบนี้แล้วการ์ดทองอื่นๆก็สามารถสร้างกองทัพที่ดีได้เช่นกัน การ์ดทองสายบู้ เช่น เตียวเลี้ยว โจโฉ เบ้งเฮ็ก เล่าปี่ เตียวหุย ซุนเซ็ก บุนทิว กวนอู ซุนเกี๋ยน แฮหัวตุ้น เป็นต้น หรือจะเป็นการ์ดทองสายซัพพอต เช่น กุยแกเสี่ยวเกี้ยว โลซกไต้เกี้ยว เล่งทอง บังทอง กองหนุนเหล่านี้ทางที่ดีให้เก็บไว้ก่อน อย่านำไปบูชาเลื่อนขั้นซะหมดละ มิงั้นจะมาเสียใจในภายหลัง ส่วนนอกเหนือจากนี้ก็สามารถนำไปเป็นการ์ดบูชาเลื่อนขั้นการ์ดอื่นๆได้
2. ประเภทของทหารและการอัพค่าเทคนิค
ถ้าอยากจะเพิ่มพลังศึกให้แข็งแกร่ง แน่นอนจะต้องมาอัพค่าเทคนิคทหารของคุณให้แกร่งขึ้น การอัพค่าเทคนิคต้องใช้ค้อนเทคนิคซึ่งหาซื้อได้ที่มอลล์ หรือ จะหาจากฟังก์ชั่นผู้กล้า ก็ได้
เคล็ดไม่ลับ : พลทหารแต่ละประเภทมีการแพ้ทางซึ่งกันและกัน มีหลักจำง่ายๆ ท่องให้ขึ้นใจ
พลม้า แพ้ทาง พลทวน
พลทวน แพ้ทาง พลธนู
พลธนู แพ้ทาง พลม้า
แต่ถ้าไม่อยากแพ้ทางทหารประเภทไหน อย่าลืม!! เข้ามาอัพค่าเทคนิคด้วยนะ
3. การเลื่อนขั้นการ์ด
ต่อมาเราก็จะมาพูดถึงรูปแบบการเลื่อนขั้นการ์ดกันการ์ดในเกมไม่เพียงมีประเภททหารที่ต่างกัน แต่ยังมีระดับขึ้นที่แตกต่างกันไปอีกด้วยลำดับในการเลื่อนขั้น คือ
การ์ดทั่วไป→การ์ดแท้→การ์ดอสูร→การ์ดเทพ
ทุกครั้งที่ทำการเลื่อนขั้น จะต้องใช้การ์ดคุณภาพและระดับเดียวกัน 3 ใบเพื่อเป็นการ์ดบูชา (การ์ดที่ใช้บูชาจะหายไปหลังจากการเลื่อนขั้น ฉะนั้นระวังให้ดีวในการเลือกการ์ดบูชานะ) หลังเลื่อนขั้นการ์ดจะเพิ่มคุณสมบัติและสกิลขึ้นอย่างมาก รวมถึงใช้ความฮึดในการปล่อยสกิลน้อยลง
ยกตัวอย่าง:1 การ์ดทองระดับอสูร = 4 การ์ดทองระดับแท้ (1ใบคือการ์ดหลัก ส่วนอีก 3 ใบคือการ์ดบูชา)
การเลื่อนขั้นการ์ดจะต้องมี Lv.ตามที่กำหนด
แท้: Lv1
อสูร : Lv30
เทพ : Lv60
4. เรื่องของสกิล
ขุนพลแต่ละตัวก็จะมีสกิลที่แตกต่างกันออกไปสกิลสามารถแบ่งออกได้ 4 ประเภท คือ อัพเกรดพลังต่อสู้เพิ่มขึ้น ลดพลังต่อสู้ของศัตรู สกิลรักษาหรือฮีล สกิลโจมตีรุนแรง
การบัพสกิลยิ่งจะทวีความรุนแรงของดาเมจเพิ่มขึ้นได้อีก ยกตัวอย่าง ขุนพลเสี่ยวเกี้ยวบัพสกิลให้ขุนพลขงเบ้ง เพื่อเพิ่มค่าปัญญาในการใช้สกิลเทพอัญเชิญสายฟ้า
สำหรับสกิลอัพเกรดพลังต่อสู้ ลดพลังต่อสู้ และสกิลรักษา จะเป็นความต่อเนื่องแบบ X+Y X คือเวลาพื้นฐาน Y คือพลังปัญญาที่ให้เวลาเพิ่มขึ้นซึ่งสกิลประเภทอัพเกรดอย่างน้อยที่สุดก็จะดำเนินเวลาของ Xสูงสุดก็จะดำเนินเวลา 2X อย่างเช่น สกิลลดพลังต่อสู้ หากเวลาพื้นฐานคือ 8 วินาทีถึงแม้พลังปัญญาจะเป็น 0 ก็ยังส่งผล 8 วินาทีเช่นเดิมและถึงแม้พลังปัญญาจะเป็นหมื่น สกิลก็จะมีผลมากสุดแค่ 16 วินาทีหรือสองเท่าของเวลาพื้นฐานเท่านั้น
เคล็ดไม่ลับ : สำหรับสกิลลดพลังต่อสู้ของศัตรูและสกิลโจมตีรุนแรงจะต้องคำนึงถึงความต่างของพลังปัญญาเป็นหลัก สกิลโจมตีรุนแรงแบ่งออกเป็น เกิดความเสียหายฉับพลัน (เช่น สายฟ้าของขงเบ้ง) และ เกิดความเสียหายต่อเนื่อง (เช่น ไฟของจิวยี่ และ พิษของสุมาอี้)